“ทำดนตรีต่อไปไม่มีที่สิ้นสุด…”
#EVOpenMic โอกาสใหม่ทางดนตรีครั้งสำคัญ
ในยุค New Normal
กับ Koh Mr.Saxman
#NewNormal
โควิด-19 กักได้แค่ตัว แต่ไม่อาจกักหัวใจแห่งความรักในดนตรีได้ ยิ่งมีโพรเจ็กต์ดนตรีระดับโลก #EVOpenMic จาก Electro-Voice ยิ่งเห็นได้ชัด
โดยโพรเจ็กต์นี้เปิดพื้นที่ใหม่ในโลกออนไลน์ให้ศิลปินทั่วโลกได้แสดงผลงานดนตรีของตนเอง กลายเป็นเวทีที่กระตุ้นแรงบันดาลใจครั้งสำคัญให้กับศิลปินทั่วโลกได้เดินต่อไปบนถนนสายดนตรีอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
และหนึ่งเดียวของศิลปินไทยที่ได้เปิดแสดง #EVOpenMic LIVE SOLO Concert Online ครั้งพิเศษบนเวทีนี้ ได้แก่ Koh Mr.Saxman -เศกพล อุ่นสำราญ ศิลปินแจ๊สชาวไทยผู้สร้างสรรค์ผลงานมายาวนาน
ถึงแม้หลายสิบปีที่ผ่านมาได้แสดงผลงานมาแล้วมากมายหลายประเทศทั่วโลก แต่ไม่มีครั้งไหนเหมือนครั้งนี้!!
SD: ที่สุดของความสนุกประทับใจในฐานะศิลปินไทยหนึ่งเดียวบนเวที #EVOpenMic?
Koh Mr.Saxman: ตอนแรกที่ได้รับการติดต่อจาก บ๊อช ไทยแลนด์ ซึ่งดูแลแบรนด์ Electro-Voice ก็ตื่นเต้นดีใจ เพราะเราก็เป็นแฟนแบรนด์นี้อยู่แล้ว ทั้งไมโครโฟนและเครื่องเสียง พอมีโปรเจ็กต์นี้ซึ่งเป็นระดับโลกก็ยิ่งสนใจ ซึ่งงานนี้ต้องมีการออดิชั่นด้วย แต่เนื่องจากผมเองคิดว่า #EVOpenMic เป็นโอกาสครั้งสำคัญไม่เพียงการเล่นดนตรีเท่านั้น แต่ยังเป็นโอกาสที่จะได้นำเสนอประเทศไทยอีกรูปแบบหนึ่งผ่านเสียงดนตรีด้วย จะออดิชั่นได้หรือออดิชั่นไม่ได้ ก็ถือว่าเป็นความท้าทายในช่วงโควิด-19 กระทั่งได้ร่วมงานกันในที่สุด
SD: แต่กว่าจะขึ้นเวทีนี้ได้ ไม่ง่าย โดยเฉพาะการออดิชั่น?
Koh Mr.Saxman: สำหรับการออดิชั่น ผมว่ามันท้าทายดีนะ จำได้ว่าออดิชั่นครั้งสุดท้ายของผมเมื่อประมาณ 12 ปีที่แล้ว คือโปรเจ็กต์ Unit Asia วงดนตรี JAZZ ที่รวมนักดนตรีเอเชียแล้วแสดงไปทั่วโลก ลักษณะการออดิชั่นครั้งนั้นดูจากผลงานโดยไม่ต้องเป่าสดให้ชม โดยผมส่งอัลบั้มชุดแรกของผมไป หลังจากเขาฟังเพลงแล้วผ่าน ที่สุดก็ได้ร่วมเดินทางในทัวร์คอนเสิร์ตอยู่หกปีกับวงนี้ แต่ออดิชั่นยุคนี้ New Normal มีการใช้เทคโนโลยีอย่างมาก โดยผ่านโปรแกรมและแพลตฟอร์มใหม่หมด เป็นอีกสิ่งใหม่ที่เราปฏิเสธไม่ได้แต่ต้องเรียนรู้ไปกับมัน เพราะมันเดินทางมาถึงเราแล้ว บอกได้เลยว่า ถ้าไม่ทำวันนี้ วันหน้าก็ต้องทำอยู่ดี พอได้ลงมือทำจริง ๆ ก็สนุกท้าทายไปอีกแบบ
SD: ผลงานที่เลือกไปในการโชว์?
Koh Mr.Saxman: เป็น Original Music ทั้งหมด 5 เพลง หลังจากที่เราผ่านรอบออดิชั่น รอบคุย รอบสไกป์ รอบสัมภาษณ์ไปแล้ว เราก็เตรียมตัว สำหรับโชว์ของ Koh Mr.Saxman คือ การ represent ประเทศไทยให้ Electro-Voice และแฟนของ Electro-Voice ได้ฟังถึงเรื่องเมืองไทย เพราะหลาย ๆ คนไม่รู้จักเมืองไทย จึงเป็น 5 บทเพลงนี้ ได้แก่ The River of Love, ภาวนา, Memory of You, Friends Forever และ Retro Nueveu
SD: การเช็ตอัประบบ LIVE SOLO Concert Online ยุ่งยากมากน้อยแค่ไหน?
Koh Mr.Saxman: ตอนแรกยุ่งยากมาก ผมไม่รู้จะทำตัวยังไง กังวลว่า ไลฟ์แล้วเสียงจะดีไหม หรือจะต้องทำอะไรยังไงในการไลฟ์ จนตอนหลังทาง บ๊อช ไทยแลนด์ ส่งทีมมาช่วย เชื่อมั้ยว่า โพรดักชันเราสวยมาก เสียงก็ดี ภาพก็สวย ผมว่าสวยที่สุดจากทั้งหมด 50 โชว์ ดีใจที่เราทำสำเร็จ นั่นไม่ได้หมายถึงผมคนเดียว แต่ หมายถึง “ทีมไทยแลนด์” ทั้งหมด
SD: ฟีดแบ็คเป็นอย่างไรบ้าง?
Koh Mr.Saxman: น่าจะเป็นแชร์เยอะที่สุด เราก็จัดเต็ม ทีมไทยแลนด์ช่วยกันเชียร์ ทุกวันนี้คนก็ส่งข้อความมาขอลิงค์ เพราะเห็นไมค์แล้วสวยดีชอบ เพื่อน ๆ ศิลปินต่างประเทศก็เข้ามาคุยกันในอินบ๊อกซ์ คิดว่านี่คือเริ่มต้นของยุคดนตรีไร้พรมแดน จริง ๆ แล้ว #EVOpenMic ก็เปิดมุมมองเราเองด้วยนะ ผมก็เข้าไปดูทุกโชว์เลย ส่วนใหญ่เป็น Original Music ทั้งนั้นที่มาเล่นในโชว์ และเพลงแปลก ๆ เยอะ ได้เห็นความเก่งของศิลปินหลาย ๆ ประเทศ ซาวด์อาจจะไม่ต้องเหมือนคอนเสิร์ต แต่มันคือวิถีของนักดนตรีในยุคที่โดนกักตัว แต่กักสมองกับความคิด หรืออารมณ์ศิลปินไม่ได้เลย
SD: จากประสบการณ์ใหม่ในเวทีนี้ พอจะให้นิยามของ #EVOpenMic ได้ว่ายังไงบ้าง?
Koh Mr.Saxman: นี่คือวิถีใหม่ของดนตรีโลก ผมเองทำงานด้านบันทึกเสียงมามากแล้ว มีการบันทึกเสียงให้กับศิลปินทั่วโลกเป็นปกติอยู่แล้ว ทั้ง สวีเดน, ญี่ปุ่น, ฟิลิปปินส์, อเมริกา, เยอรมัน, ไอซ์แลนด์ ฯลฯ สำหรับนักดนตรีในแง่สตูดิโอไม่แปลก แต่ตอนนี้มันเดินทางมาถึงจุดที่เหมือน ฟาสต์ ฟอร์เวิร์ดไปอีกสิบปีข้างหน้าว่าเราจะต้องเล่นดนตรีด้วยกันผ่านโลกออนไลน์
อันนี้คืออีกโอกาสในการเล่นดนตรี เป็นการเปิดโลกให้เราก้าวไปหาสิ่งอื่นที่ไม่ใช่ดนตรีแจ๊สอย่างเดียว โอเค ผมชอบแจ๊ส แต่ดนตรีที่อยู่ใน #EVOpenMic มันมีดนตรีแนวแปลก ๆ จากนักร้องหลาย ๆ ประเทศ แล้วเป็น Original Music ทั้งหมด ทำให้รู้ว่า ดนตรีแจ๊สเป็นแค่อีกอณูของดนตรีโลก เราก็ควรจะต้องเปิดใจให้กว้างขึ้น
ครั้งนี้นอกจากได้เล่นดนตรีแล้วยังได้เปิดหูเปิดตาและมุมมองใหม่ ๆ ได้ค้นพบว่าแต่ละประเทศก็มีแนวดนตรีที่เป็นตัวตนของเขาจริง ๆ นอกจากนี้ยังได้รู้เลยว่าในโลกออนไลน์ยุค New Normal แบบนี้ ทุกอย่างเปลี่ยนไปแล้ว ไม่ว่าศิลปินรุ่นไหน เราต่างมีสิทธิ์เท่าเทียมกัน โดยเฉพาะตอนออดิชั่น จะใหม่หรือเก่าบนโลกออนไลน์คุณมีสิทธิ์เท่ากันที่จะตกรอบ อย่าไปคิดว่าคนมีชื่อเสียงแล้วมีสิทธิ์อยู่คนเดียว ไม่ใช่เลย ศิลปินหน้าใหม่ที่ขยันแต่งเพลงทุกวัน ทำโพรดักชันทุกวัน ก็มีสิทธิ์เหมือนกัน ฉะนั้นยุคนี้ไม่ได้บอกว่าความสำเร็จจะคงอยู่ถาวร ถ้าเรา ไม่ได้ทำต่อเนื่อง
SD: #EVOpenMic ทำให้ได้มาพบกับไมโครโฟน Electro-Voice อีกครั้งหนึ่ง เป็นยังไงบ้าง?
Koh Mr.Saxman: ปกติก็ใช้ไมโครโฟน Electro-Voice อยู่แล้ว แต่เป็นรุ่นเก่ามากและหวงมาก เป็นไมค์คู่ใจไปทุกที่เวลาเดินทางไปอเมริกา ยุโรป หรือทุกที่ ก็จะพกไปด้วย สะดวกและมั่นใจดี ถ้าซิสเต็มเขาดีอยู่แล้ว เราอาจจะไม่ต้องไปยุ่งมาก อย่างไปเล่นที่ Lincoln Center for the Performing Arts เขาเซ็ตอัปไว้อยู่แล้ว แต่ถ้าที่ไหนไม่ค่อยแม่นยำก็จะนำอุปกรณ์ของเราไปใช้ พอเขาเห็น Electro-Voice เอนจิเนียร์พุ่งมาหาเลย ซึ่งเราแฮปปี้ มีไว้แล้วอุ่นใจ พออุ่นใจ ก็เล่นดนตรีสนุก
SD: ระบบเสียงดี นักดนตรีก็เล่นสนุก มีหลักการพิจารณาเลือกไมโครโฟนเพื่อมาใช้งานอย่างไรบ้าง?
Koh Mr.Saxman: ในการใช้ไมโครโฟน ผมนิยมเสียงที่เป็นธรรมชาติ คือออกจากหน้าแซกโซโฟนยังไง ผ่านไปยังลำโพง คนฟังต้องได้ยินเนื้อเสียงแบบนั้น แล้ว Electro-Voice ให้เสียงแบบนั้นจริง ๆ อย่างรุ่นที่ใช้ครั้งนี้คือ RE20 ก็ถูกใจมาก ปกติในสตูดิโอเขาก็ใช้ไมค์คอนเดนเซอร์กัน แต่ครั้งนี้เราใช้ไมโครโฟน Electro-Voice ที่เป็นไดนามิก ให้เสียงที่ดี คมชัด เป็นธรรมชาติ แฮปปี้เลย เสียงดีแค่ไหนดูจากคลิปได้เลยครับผม
SD: ปกติช่วงเวลานี้ของปีต้องมีเทศกาลแจ๊สหรือเดินทางเล่นดนตรีที่ไหนสักแห่งในโลก แต่พอมีโควิด-19 มาต้องปรับ รับมือ เปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง?
Koh Mr.Saxman: ในช่วงสองสัปดาห์แรกของโควิด-19 ปรับตัวไม่ได้เลย มาตั้งหลักได้สัปดาห์ที่สาม ก็เรียกน้อง ๆ ในวงในทีมมาคุยว่าชีวิตจะเปลี่ยนไป เราต้องพยายามคุ้นเคยกับออนไลน์ให้มากขึ้น ถามว่าดนตรีจะหยุดมั้ย ไม่หยุดแน่นอน ซึ่งช่วงโควิด-19 ผมแต่งเพลงได้เยอะมากเลย ถึงโควิด-19 มาแต่โพรเจกต์ดนตรีไม่เคยหยุดเลยนะ ผมเองก็ยังคงทำงานอัดเสียงทางออนไลน์ให้เพื่อนศิลปินหลายประเทศอยู่ต่อเนื่อง
ผมมองว่าถึงแม้โควิด-19 เป็นวิกฤติ แต่สำหรับนักดนตรีที่มีแรงบันดาลใจอยากจะทำดนตรีก็ได้ใช้โอกาสช่วงนี้ทำดนตรีออกมาไม่เคยหยุดเลย สอบถามเพื่อน ๆ นักดนตรีหลายวงก็เหมือนกัน
SD: กับสมาชิก The Sound Of Siam คุยกันยังไงบ้างต่อสถานการณ์ครั้งนี้?
Koh Mr.Saxman: จริง ๆ เดือนมิถุนายนเราต้องไปฮอลแลนด์ พอไม่มีเราก็ปั้นอัลบั้มใหม่ให้เสร็จ ชื่อ Classic โดยนำเพลงลูกกรุงมาทำใหม่เป็น World Music ก็เก็บงานในสตูดิโอเรื่อย ๆ
SD: อย่างหนึ่งที่เห็นคือ Saxsociety เป็นฐานที่มั่นของ LIVE ต่อเนื่องมากว่า 100 วันแล้ว มีเหตุผลอะไรเป็นพิเศษไหม?
Koh Mr.Saxman: ที่ทำไลฟ์เพราะว่า Saxsociety เป็นเหมือนคอมมิวนิตี้ของนักแซกโซโฟนทุกคนต้องมาที่นี่ สมัยก่อนพ่อดม ชวนชื่นเป็นขาประจำที่นี่ รวมถึงอาจารย์แซกโซโฟนและนักดนตรีทั้งหลายก็จะแวะเวียนกันมา พอเจอโควิด-19 ต้องปิดร้าน เราก็ทำออนไลน์กัน อย่างน้อยไม่ได้เจอหน้ากันก็จะได้หายคิดถึงกันสักหน่อย แรก ๆ เปิดไว้ทั้งวันใครอยากทักก็ทักมา ส่งผลดีอย่างมาก อย่างพี่เสนาหอยก็บอกว่า “เห็นไลฟ์ทุกวันจนอยากเป่าแซกฯ” แล้วมาซื้อของเอง อย่างนี้ก็มีเหมือนกัน
SD: หลังจากฟ้าเปิด สถานการณ์ดีขึ้นเป็นปกติแล้ว ศิลปินยุค New Normal ต้องเป็นอย่างไรบ้าง?
Koh Mr.Saxman: ผมว่าตอนนี้เรื่องนิสัยสุขอนามัยเริ่มเปลี่ยนแปลงแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักเป่า แต่ก่อนเป่าเสร็จแล้วก็เก็บเลย ตอนนี้ต้องไปล้างลิ้น ล้าง Mouthpieces แล้วกรณีคนหนึ่งเป่าเสร็จแล้วส่งให้เพื่อนเป่าต่อ อย่างนี้ไม่มีแล้ว
อีกส่วนคือ หลังจากนี้ไปแล้ว ผมว่าหลายคนก็ไม่กลับมาเล่นดนตรี เพราะเจออาชีพที่ชอบ และเริ่มสนุกกับอาชีพใหม่ เช่นบางคนพบว่าตัวเองทำขนมอร่อย เป็นต้น ฉะนั้นคนที่จะกลับมาได้คือคนที่รักจริง หรือมุ่งมั่นไปทางดนตรีจริง ๆ จากนี้ไปเราจะเจอนักดนตรีที่เก่งขึ้น เนี้ยบขึ้น เสียงดีขึ้น และได้ยินเพลงที่เป็น Original ใหม่ ๆ มากขึ้น
SD: จากนี้ไปศิลปินต้องการดูแลเป็นพิเศษจากออแกไนเซอร์/ซัพพลายเออร์ดูแลระบบเสียงเรื่องไหนบ้าง?
Koh Mr.Saxman: อันนี้สำคัญเลย ผมว่าช่วงนี้ นักดนตรีละเอียดขึ้น โดยเฉพาะส่วนที่พร้อมจะไปข้างหน้า พวกที่อยากจะดีที่สุด ผมว่าเขาเริ่มรู้สึกแล้วว่า ฉันจะต้องทำให้ดีที่สุด เสียงจะต้องดีที่สุด เอฟเฟกต์ที่ให้ต้องดี ก่อนจะถึงเอฟเฟกต์ก็คือ ไมโครโฟนต้องดี ปลายทางมิกเซอร์ต้องดี เสียงต้องบาลานซ์ ผมว่าหลายคนเริ่มที่จะฟังเพลงมากขึ้น และละเอียดมากขึ้น
ผมคุยกับอินบ๊อกกับน้อง ๆ ก็มีคนถามมากมายเกี่ยวกับไมโครโฟนที่ใช้เยอะมากเลย สวยและเสียงดี แสดงว่าคนเริ่มให้ความละเอียดอ่อนกับอุปกรณ์ที่ใช้มากขึ้น ซึ่งไม่ว่าจะงานออนไลน์หรือ On Ground อุปกรณ์สำคัญทั้งสิ้นและสำคัญมานานแล้ว เพียงแค่เราไม่ได้ใส่ใจมากเท่านั้นเอง แต่สำหรับผมสนใจตั้งแต่อะคูสติกของตัวเอง อะคูสติกต้องดี ไมโครโฟนต้องดี สายแจ๊กต้องดี การจะเล่นดนตรีออกมาให้ดี ก็ต้องสนใจในทุกรายละเอียด
SD: กังวลเกี่ยวกับจำนวนคนดูคอนเสิร์ตในอนาคตไหมที่ต้องถูกจำกัดจำนวน และพื้นที่อะไรต่าง ๆ?
Koh Mr.Saxman: ถึงแม้จะน้อยลงหรือมีการจำกัดพื้นที่ คิดว่าเป็นเรื่องที่ต้องปรับตัว ตราบใดที่เรายังไม่ปลอดภัยจริง ๆ ก็โอเค รอได้ แต่ระหว่างที่รอก็ทำดนตรีไปก่อน
SD: สุดท้ายนี้ให้กำลังใจให้ศิลปินในยุค New Normal กันหน่อย?
Koh Mr.Saxman: คิดว่าทุกอย่างอยู่ที่มุมมอง หลายคนก็มองสถานการณ์นี้แย่มาก สำหรับผมก็แค่ประหยัดใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย ก็อยู่ได้ แต่สำคัญคือ ดนตรีต้องทำต่อ เรื่องดนตรีหยุดไม่ได้เลย คิดทุกวันเลยว่าจะทำอะไร จะแต่งเพลงแบบไหน ซ้อมแบบไหน ทำโชว์ใหม่ยังไง เปิดมาแล้วคนต้องการฟังอะไรจากเรา ทุกวันนี้ผมก็คิดทำโชว์ใหม่ เป็น Koh Mr.Saxman New Show ไว้แล้ว ซึ่งแต่งเพลงใหม่แทบทั้งโชว์เลย ยังไม่รู้ว่าจะมีที่ไหนจ้างนะ แต่อะไรที่ทำได้ก็ทำไปก่อน
ปกติผมเล่นแค่วันเดียวที่แซกโซโฟนผับวันอังคาร(21.00–24.00 น.) เป็นที่เดียวที่เล่นดนตรี นอกนั้นเล่นตามงานอีเวนต์ คอนเสิร์ต เฟสติวัล พอเปิดมาทุกคนอาจจะลงมารุมกันหมดก็ได้ และเราจะเป็นกลุ่มสุดท้ายที่ทำงาน แต่ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ตอนนี้เตรียมโชว์ใหม่ไว้แล้ว
บางส่วนก็อาจจะเปิดให้ชมทางไลฟ์ เพราะตอนนี้มีลำโพงใหม่แล้ว ก็คือ EV EVOLVE 30M ก็จะไลฟ์ทุกวันผ่าน EV EVOLVE 30M นี่แหละ เท่แล้วก็เสียงดี ชอบครับ
จนกว่าสถานการณ์ทุกอย่างจะดีขึ้น ช่วงนี้ติดตามได้ที่
https://www.facebook.com/kohmrSaxmanfp
และ https://www.facebook.com/saxsociety ครับผม
ขอบคุณภาพจาก https://www.facebook.com/kohmrSaxman