เจษฎา พัฒนถาบุตร

ผู้ติดปีก Jack Sound Systems สู่ JSS PRODUCTION

หากจะมองหาบริษัทด้าน Sound Production ของไทย “JACK SOUND SYSTEMS” ถือเป็นบริษัทแถวหน้าบริษัทหนึ่ง ที่ปรากฏผลงานคุณภาพและเป็นที่ยอมรับในวงการทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างกว้างขวาง แต่หากจะมองหาผู้ประกอบการด้าน “อุตสาหกรรมดนตรี” JSS PRODUCTION คือหนึ่งเดียวในประเทศนี้ ที่ เจษฎา พัฒนถาบุตร ผู้บริหารและผู้ก่อตั้งทั้งสองบริษัทได้ชูธงให้ความสำคัญกับ Music Business มากกว่า Media Business เสมอมา

จากเด็กนักเรียนโรงเรียนสาธิตปทุมวัน ผู้สนใจคลั่งไคล้ในเรื่องอิเล็กทรอนิกส์ จากหนังสือตำรับตำรา RCA ไปจนถึง Motorola ที่ผู้เป็นพ่อได้นำกลับมาจากยุโรปและอเมริกา กระทั่งได้รับรู้และซึมซาบเรื่องราวของเครื่องกำเนิดเสียงมาตั้งแต่ยุคหลอดทรานซิสเตอร์ นอกจากความสนใจในเรื่องอิเล็กทรอนิกส์ ความสนใจในเรื่องดนตรีและเพลงที่หลากหลายก็มีความเข้มข้นไม่แพ้กัน พร้อมกับบรรยากาศอันเฟื่องฟูของดนตรีจากฟากฝั่งตะวันตกในประเทศไทย ที่หลั่งไหลเข้ามาพร้อมเหล่าทหารจีไอในยุคสงครามเวียดนามยังร้อนระอุ กระทั่งมีผลสร้างแรงสั่นสะเทือนยกระดับแนวทางวงการดนตรีของไทย ก่อให้เกิดเป็นวง ดิ’อิมพอสซิเบิล, วงบัตเตอร์ฟลาย, วง V.I.P. ที่โดดเด่นด้วยมือกีตาร์นาม “แหลม มอริสัน” และอีกหลาย ๆ วง หลายศิลปินคุณภาพในยุคถัดมา

กระแสของดนตรีตะวันตกที่เปิดกว้างมากขึ้นในเมืองไทย เจษฎาผู้มีใจรักดนตรีและคลื่นเสียงเป็นพื้น ได้ถูกอบบ่มบรรยากาศในยุคที่วงการระบบเสียงพีเอ และดนตรีจากโลกตะวันตกกำลังเฟื่องฟูเติบโตถึงขีดสุด นอกเหนือจากการเป็นนิสิตในมหาวิทยาลัยแนวหน้าของเมืองไทย ในขณะเดียวกันเขายังมุ่งหน้าเรียนรู้จากประสบการณ์จริงนอกรั้วมหาวิทยาลัย ด้วยการร่วมงานกับค่ายเพลงและผู้จัดดนตรีในตำนานอย่าง “ไนท์สปอต” ผู้ริเริ่มนำศิลปินต่างประเทศเข้ามาแสดงในเมืองไทย

สำหรับชีวิตในรั้วการศึกษา เจษฎาเริ่มต้นจากการเป็นนิสิตในขณะคณะวิศวะ จุฬาฯ เมื่อเริ่มค้นพบว่าเขามีความสุขกับงานที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์ ชื่นชมความงามของศิลปะ และเคารพพื้นฐานของการใช้งานในชีวิตจริง เจษฎาจึงค้นพบว่าเส้นทางที่ตนเองเรียนอยู่ ไม่ได้ตรงกับความสนใจที่แท้จริง จึงเบนเข็มมาสอบใหม่ ในคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาฯ และในปีถัดมาเจษฎา ก็เป็นนิสิต คณะ ถาปัด’ ในยุคที่คณะนี้ได้ผลิตบุคคลากร ที่เป็นแนวหน้าในเรื่องงานสร้างสรรค์หลาย คนของเมืองไทย

ในคณะสถาปัตย์ จุฬาฯ เขาคือหนึ่งในผู้บุกเบิก “ละครสถาปัตย์” อันเลื่องชื่อร่วมกับ “ซูโมตู้-จรัสพงษ์ สุรัสวดี” ในฐานะคนทำโปรดักท์ชั่นระบบแสง-เสียงของคณะละคร และเป็นผู้สร้างสีสันใหม่ให้กับการละครด้วยการนำ Wireless Microphone มาใช้ในการแสดง ละครคณะสถาปัตย์ครั้งนั้น จึงกลายเป็นตำนานและเบ้าหลอมให้ก่อเกิดเป็นศิลปินประดับวงการบันเทิงไทย ไม่ว่าจะเป็นกลุ่ม ซูโม่-เพชฌฆาตความเครียด ไปจนถึง ปัญญา นิรันดร์กุล ผู้บริหารบริษัทเวิร์คพอยท์

จากชีวิตกิจกรรมในรั้วมหาวิทยาลัย ที่สร้างแนวคิด มุมมอง และจินตนาการด้านศิลปะ ผสมรวมกับประสบการณ์การงานด้านเสียงกับไนท์สปอตและมือเสียงของศิลปินระดับโลกในระหว่างเล่าเรียน ได้บ่มเพาะให้เด็กหนุ่มนาม เจษฎา พัฒนถาบุตร ในวันนั้น สร้างโอกาสวาดเส้นทางของตนเองก้าวสู่แนวหน้าในฐานะ “พ่อค้าอาวุธเสียง” ก่อเกิดเป็น “JACK SOUND SYSTEMS” และ “JSS PRODUCTION” ที่ได้รับการยอมรับและเชื่อมั่นจากทีมงานเสียงของศิลปินชั้นนำระดับโลก

เขาคือผู้ให้คำนิยามกับตนเองว่า “ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมดนตรี” ผู้ที่ประสบความสำเร็จได้รับรางวัล B.I.D. (Business Initiative Directions) “Century International Quality” แห่งประเทศสเปนถึงสองปีซ้อน เป็นรางวัลที่มอบให้สำหรับผู้นำด้านอุตสาหกรรมที่มีความคิดริเริ่มทางธุรกิจของตน และสามารถพัฒนาจนได้มาตรฐานสากลเป็นที่ยอมรับในระดับโลก

และเขาก็คือ “พี่แจ็ค” ของน้อง ๆ ศิลปิน, คนทำงานโปรดักท์ชั่น, คนทำงานระบบแสง เสียง ภาพ และเหล่าผู้จัดการแสดงดนตรีทุกผู้ทุกนามในประเทศไทย หลายเส้นทางหลายบริษัทที่แตกหน่องอกงามในวงการนี้ เขาคือผู้หนึ่งที่ เป็นแรงกระตุ้น ส่งเสริม ให้แนวคิด ชี้แนวทาง วางแผน ไปจนถึงสนับสนุนและร่วมก่อตั้ง กระทั่งชื่อของเขาปรากฏในรายชื่อประธาน, กรรมการ หรือหุ้นส่วนในหลาย ๆ บริษัท ไม่ว่าจะ เท็นเยียร์อาฟเตอร์, ซิลเวอร์เลคเอ็นเตอร์เทนเมนท์, ยูไนเต็ด โปรดักท์ชั่น, ยูไนเต็ด สเตจ, อินสแตนท์ การ์มา มิวสิค, ออดิโอ เกียร์ และอีกมากมายทั้งที่เปิดเผยและไม่เปิดเผย

นี่คือ เส้นทางของพี่ใหญ่แห่งวงการโปรดักท์ชั่นไทย “พี่แจ็ค-เจษฎา พัฒนถาบุตร” และ JSS PRODUCTION

หมายเหตุ: บทสัมภาษณ์นี้ ตีพิมพ์ครั้งแรกในนิตยสารซาวด์ไดเมนชั่น ฉบับที่ 3 เดือนมิถุนายน 2561