#Showcase เอปสันหนังกลางแปลง
Epson Love Cinema Drive-in Theater ส่ง Laser Projector ปลุกกระแส “หนังกลางแปลง” ยุค New Normal
+
อีเวนต์ยุค New Normal นอกจากปลอดภัยแล้วต้องมีสีสันที่ไม่ธรรมดา โดยเฉพาะงานประเพณีที่จัดกันมาทุกปี ก็สามารถยกระดับความพิเศษกันในรูปแบบใหม่ให้เข้ากับยุค New normal ได้ด้วยไอเดียและเทคโนโลยีใหม่ ๆ
“งานทำบุญอุทิศถวายหลวงพ่อพระมหาฟัก สุกฺกธมฺโม” อดีตเจ้าอาวาส วัดลานตากฟ้า อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ซึ่งถือเป็นงานประเพณีที่ยิ่งใหญ่อีกงานหนึ่งที่ลูกศิษย์ลูกหาและสายบุญทั้งหลายไม่ยอมพลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งปีนี้ พิเศษกว่าครั้งใด นอกจากจัดฉายหนังกลางแปลงให้ชมกันอย่างจุใจเกือบ 30 จอแล้ว ยังจัดให้เป็นรูปแบบ “ไดร์ฟ-อินงานวัดครั้งแรกของเมืองไทย” ด้วยงานที่ชื่อ “Epson Love Cinema Drive-in Theater” เมื่อ 15-16 กันยายน 2563 ร่วมสร้างสรรค์โดย เลิฟซินีม่า, โปรเจคเตอร์ชัวร์ และ เอปสัน (ประเทศไทย)
งานนี้ได้รับความสนใจไม่น้อย บรรดาคนรักหนังกลางแปลงต่างนัดหมายพากันขับรถเข้าร่วมชม Epson Love Cinema Drive-in Theater รอบพิเศษจนเต็มพื้นที่ลานโล่งที่จุรถได้มากถึง 200 คัน แต่ละคน-แต่ละคันต่างตื่นเต้นกันเป็นอย่างมาก เพราะบรรยากาศการชมแปลกใหม่ ปลอดภัย จากที่เดิน ๆ นั่ง ๆ อยู่บริเวณหน้าจอ ก็มานั่งในรถยนต์ของตนเองแทน โดยไม่ต้องเบียดใครให้วุ่นวาย และยังรับชมกันอย่างง่าย ๆ แค่เพียงเปิดวิทยุในรถแล้วปรับไปที่คลื่นคลื่น FM 108.0 MHz เท่านั้น ก็เพลิดเพลินกับหนังกลางแปลงยุคใหม่สไตล์ New Normal อย่างสบายใจ ถือเป็นการชมความบันเทิงแบบเว้นระยะห่างทางสังคมอย่างแท้จริง
พอได้เห็นแฟนหนังกลางแปลงชื่นชอบภาพสดใส สมจริง มีชีวิตชีวา และคมชัดทุกรายละเอียดบนจอ 16 เมตรเบื้องหน้ากันแล้ว 3 ผู้จัด ทั้ง เลิฟซินีม่า, โปรเจคเตอร์ชัวร์ และ บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด พลอยอิ่มอกอิ่มใจไปด้วย
โดยเฉพาะทาง เอปสัน (ประเทศไทย) ที่ได้ยกเครื่องเลเซอร์โพรเจกเตอร์รุ่น Epson EB-L20000UNL ซึ่งมีความสว่างถึง 20,000 ลูเมน และความละเอียดสูงกว่า Full HD ในระดับ WUXGA มาจัดฉายเป็นพิเศษในครั้งนี้
“การเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมนี้ เป็นโอกาสดีที่จะได้แสดงศักยภาพของเลเซอร์โพรเจกเตอร์เอปสันให้กับเหล่าผู้ประกอบการธุรกิจฉายหนังกลางแปลงจำนวนมาก และได้เปิดประสบการณ์ใหม่ในการรับชมหนังกลางแปลงที่เป็นกิจกรรมรื่นเริงที่อยู่คู่สังคมไทยมานานหลายทศวรรษ”
คุณยรรยง มุนีมงคลทร ผู้อำนวยการบริหาร บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงที่มาของการร่วมสนับสนุนงาน
0 เอปสันขยายฐานลูกค้าเลเซอร์โพรเจกเตอร์
สู่ธุรกิจหนังกลางแปลงไทย
ในยามที่ยุคดิจิทัลมาเยือนถึงประตูบ้านเป็นสัญญาณว่าถึงเวลาต้องเปลี่ยนแล้ว ธุรกิจหนังกลางแปลงได้รับผลกระทบของการเปลี่ยนผ่านทางเทคโนโลยีโดยตรง ผู้ประกอบการหนังกลางแปลงหลายรายต้องล้มหายตายจากกันไปก่อนเวลาอันควรอย่างน่าเสียดาย แต่ก็มีอีกหลายหน่วยหนังที่ไม่ยอมแพ้ไปง่าย ๆ
พวกเขาเลือกเส้นทางสาย “ไฟล์ดิจิทัล” เพื่อเป็นทางรอด ทั้งที่รู้ว่าต้องเจอโจทย์ใหญ่ให้ขบคิด อยู่ 2 เรื่อง ไม่เพียงเรื่อง “ลิขสิทธิ์” หนังเท่านั้นที่เป็นโจทย์ใหญ่ให้ขบคิด แต่รวมถึงเรื่อง “เครื่องฉาย” ด้วยที่ต้องควักกระเป๋ามาลงทุนครั้งใหม่ เพราะเครื่องฉายโพรเจกเตอร์แต่ละรุ่นนั้น ราคาก็ไม่เบานัก แต่กลายเป็นว่า การเปลี่ยนครั้งนั้น มาถูกทางแล้ว!!
“เอปสัน” ผู้นำด้านระบบภาพและโพรเจกเตอร์ ไม่นิ่งนอนใจ เล็งเห็นปัญหาที่คนหนังกลางแปลงพบเจอมาตั้งแต่ยุคแรก ๆ จึงได้ค้นหาวิธีการที่จะตอบโจทย์ผู้ประกอบการหนังกลางแปลงให้คุ้มค่าการลงทุน
จากเห็นว่าเครื่องโพรเจกเตอร์โดยส่วนมากจะเป็นรุ่นความสว่างไม่เกิน 10,000 ลูเมน และเป็นแบบใช้หลอดไฟที่มีอายุการใช้งานจำกัด จึงได้นำเสนอเลเซอร์โพรเจกเตอร์ เข้ามาทดแทน เนื่องจากมีระดับความสว่างหลากหลายรุ่นให้เลือกใช้งาน รวมถึงอายุการใช้งานยาวนาน นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญเรื่อง “การลงทุนอย่างคุ้มค่า” อีกด้วย
“เลเซอร์โพรเจกเตอร์ยังถือว่าเป็นเรื่องใหม่ในธุรกิจฉายหนังกลางแปลง เอปสัน จึงได้ร่วมกับพันธมิตรตัวแทนจำหน่ายพยายามให้ความรู้และกระตุ้นให้ผู้ประกอบการหันมาสนใจในเทคโนโลยีนี้ สิ่งที่ผู้ประกอบการในธุรกิจนี้ต้องการคือ ความคุ้มค่าในการลงทุน (Total Cost of Ownership) ที่ดี จึงต้องมองหาโพรเจกเตอร์ที่ราคาเหมาะสม มีอายุการใช้งานยาวนาน ฉายภาพที่คมชัดสวยสด เพื่อสร้างความประทับใจให้กับคนดู แสงจากเครื่องต้องสู้กับไฟสว่างโดยรอบได้”
ที่สำคัญคือต้องมีบริการหลังการขายที่ให้คำปรึกษาและตอบปัญหาได้ทั้งเรื่องการใช้งาน จนถึงอะไหล่และการซ่อมแซม รวมถึงต้องมีการรับประกันทั้งตัวเครื่องและชิ้นส่วนต่าง ๆ ด้วย
0 คนหนังกลางแปลง ถูกใจ เอปสัน
“ผู้ประกอบการเกือบทั้งหมดในปัจจุบันหันมาใช้โพรเจกเตอร์ในการฉายหนังกลางแปลง จากเดิมเริ่มแรกส่วนใหญ่จะลงทุนกับเครื่องมือสองเพราะต้องการประหยัดต้นทุน แต่ต้องประสบปัญหาในเรื่องของคุณภาพของภาพ และใช้งานได้ระยะสั้น ๆ ก็ต้องซ่อมหรือซื้อเครื่องใหม่ ทั้งยังไม่มีประกันและบริการหลังการขายคอยดูแล จึงมีผู้ประกอบการไม่น้อยที่ตัดสินใจเริ่มลงทุนกับโพรเจกเตอร์จากค่ายแบรนด์ดังที่มีมาตรฐาน” คุณเตชธรรม เลิศลบ หรือ “เอนก เลิฟซินีม่า” ตัวแทนจำหน่ายลิขสิทธิ์ภาพยนตร์ในระบบหนังกลางแปลง M Pictures กล่าวถึงความเปลี่ยนแปลง
“เอปสันเป็นหนึ่งในแบรนด์ยอดนิยมที่มีชื่อเสียงในเรื่องความคุ้มค่า เห็นได้จากเลเซอร์โพรเจกเตอร์ที่กล้ารับประกันการใช้งานนานถึง 20,000 ชั่วโมง นอกจากนี้ ในงานมหรสพทุกงานจะมีการจัดแสงสว่างหลากสีสันในทุกพื้นที่ ซึ่งถ้าใช้โพรเจกเตอร์มือสองที่ให้แสงสว่างไม่ได้เต็มที่ หนังที่ฉายก็จะถูกรบกวน นอกจากนี้ ผู้ประกอบการที่ใช้โพรเจกเตอร์ที่ทันสมัย อย่างเลเซอร์โพรเจกเตอร์ จะได้รับความนิยมจากผู้จ้างมากขึ้น เพราะเป็นเหมือนการรับประกันคุณภาพของหนังที่ฉายว่าภาพสวย คมชัด ดูเต็มอรรถรส”
หลังจากกระแสตอบรับที่ดี จากงาน “Epson Love Cinema Drive-in Theater” ที่วัดลานตากฟ้าแแล้ว ก็มีสมาชิกสนใจการจัดฉายหนังกลางแปลงรูปแบบใหม่มากขึ้น
“ธุรกิจฉายหนังกลางแปลงยังเป็นธุรกิจที่มีการเติบโต โดยเฉพาะอย่างยิ่งตั้งแต่ช่วงออกพรรษายาวไปจนถึงหลังวันสงกรานต์ แต่เนื่องจากในปีนี้ ได้รับผลกระทบหนักจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และเพิ่งจะเริ่มฟื้นตัว หลังจากที่รัฐบาลประกาศคลายล็อกดาวน์ ผู้ประกอบการก็เริ่มกลับมาลงทุนอัปเกรดโพรเจกเตอร์ที่ใช้อยู่ เพื่อให้ทันรับงานในช่วงฤดูหนาวปีนี้ และเลเซอร์โพรเจคเตอร์ก็เป็นทางเลือกที่ผู้ประกอบการหลายรายให้ความสนใจอย่างมาก”
“เอนก เลิฟซินีม่า” หรือ “เอนก ศาลายา” แห่ง เอนกมงคลฟิลม์ ศิษย์อาจารย์เทพ ไม่พูดให้มากความ แต่ขอยืนยันด้วยคิวงานที่แน่นทุกวันด้วยรอยยิ้ม
0 เอปสัน คุ้มค่า ด้วยชุดพร้อมฉาย
เลเซอร์โพรเจกเตอร์+ลิขสิทธิ์หนัง+ดูแลใกล้ชิด
อีกเสียงที่ยืนยันการตอบรับของเอปสันในกลุ่มคนหนังกลางแปลงคือ คุณแมน-ทรรศศิฤทธิ์ จันทร์หุณี กรรมการผู้จัดการ บริษัท โปรเจคเตอร์ชัวร์ จำกัด จากธุรกิจศูนย์ซ่อมระบบภาพ และรับงานติดตั้งระบบภาพ-เสียง ได้ผันตัวสู่การเป็น “ตัวแทนจำหน่ายเอปสัน” อย่างเป็นอย่างการในปัจจุบัน
“จากที่ได้คลุกคลีกับวงการหนังกลางแปลงเมื่อสอง-สามปีก่อน ซึ่งเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านจากการฉายระบบฟิล์มสู่ระบบไฟล์ดิจิทัลพอดี พบว่า พี่ ๆ น้อง ๆ คนหนังกลางแปลงยังไม่ค่อยมีความรู้ความเข้าใจในเรื่องเครื่องฉายหรือเทคโนโลยีอะไรมากนัก เริ่มซื้อหาเครื่องฉายมาใช้งานกันเองบ้าง แล้วลักษณะการซื้อก็เป็นแบบซื้อตาม ๆ กัน ส่วนมากไปจบที่เครื่องมือสองที่สภาพแย่ ใช้งานไปก็ไม่คุ้มทุน เราเองก็คิดว่าถ้ามีอะไรช่วยได้ก็อยากช่วยแบบเพื่อนช่วยเพื่อน มากกว่าจะทำตลาดจริง ๆ ในฐานะคนต่างจังหวัดด้วยกัน ไปมาหาสู่จนสนิทช่วยเหลือกันเรื่อยมา จนได้ไปรู้จักกับพี่เอนก ซึ่งดูแลลิขสิทธิ์หนังเอ็มพิคเจอร์สอยู่ ก็เลยรวมเครื่องของหนังกลางแปลงที่อยู่ในกลุ่มเลิฟซินีม่าทั้งหมดมาทำความสะอาดและเช็กสภาพให้ฟรี ก็คุณภาพดีขึ้น กลายเป็นว่า พอถึงเวลาเขาก็อยากเปลี่ยนใช้เครื่องใหม่ เพราะว่าราคาจับต้องได้แล้วในปัจจุบัน” คุณแมนเล่าถึงที่มาของโปรเจคเตอร์ชัวร์กับกลุ่มหนังกลางแปลง
“ผมพบกับเอปสันมากว่าสามปีแล้ว แต่ยังไม่เคยขาย และไม่คิดจะขาย เพราะเป็นศูนย์ซ่อมก็โอเคอยู่แล้ว แต่พอเห็นสิ่งที่คนหนังกลางแปลงเจอ ก็คิดว่าได้เวลาที่ต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว เพราะอยากให้เขาได้มีความรู้ความเข้าใจในการใช้งานจริง ๆ จะได้หมดปัญหาเรื่องของไม่มีคุณภาพ ไม่โดนหลอกโดยไม่จำเป็น แล้วได้ใช้ของที่มีคุ้มค่ากับเงินที่เสียไป ที่สำคัญ ผลิตภัณฑ์เอปสันตอบโจทย์หนังกลางแปลงด้วย” คุณแมนย้ำถึงจุดเปลี่ยน
“คิดว่าไม่มีผลิตภัณฑ์ไหนที่ตอบโจทย์หนังกลางแปลงเท่าเอปสันอีกแล้ว สีก็จี๊ดจ๊าดคมชัด พอหนังกลางแปลงนำไปใช้ ก็ลงตัว แล้วที่สำคัญสู้ความสว่างของงานหนังกลางแปลงได้ ราคาก็ไม่ได้สูงมาก ทำให้เราทำการตลาดง่ายด้วย”
“ตอนนี้เอปสันมีเลเซอร์โพรเจกเตอร์เพื่อมาตอบโจทย์หนังกลางแปลงก็เป็นราคาที่จับต้องได้ ไม่เหมือนเมื่อก่อน ที่อย่างน้อย ๆ ต้องมีสามแสน แต่เดี๋ยวนี้แสนกลางๆ ก็ได้แล้ว ในแง่ความคุ้มทุนก็อย่างที่เราคำนวนกันเล่นๆ ถ้าซื้อเครื่องเลเซอร์อายุการใช้งานยาวนาน หนังเรื่องหนึ่งตุ้นทุนแค่ 18 บาท การลงทุนก็ไม่สูงมาก”
พิเศษสุดสำหรับคนหนังกลางแปลง ด้วยราคาพิเศษ และการดูแลตลอดอายุการใช้งานแล้ว ยังมีการจัดเช็ต “ชุดพร้อมฉาย” พร้อมออกงานอีกด้วย โดยมาพร้อมกับลิขสิทธิ์หนังและของแถมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นป้ายไฟ ธงเอปสัน เพื่อประดับหน่วยให้อย่างสวยงาม
“ธุรกิจหนังกลางแปลงมีแนวโน้มดีขึ้นมาก โดยเฉพาะฤดูหนาวปีนี้ มีหน่วยหนังเกิดใหม่เยอะมาก เริ่มต้นซื้อเครื่องใหม่ก็ไม่แพง ก็เลยลงทุนเพิ่มขึ้นหลายเจ้า ปัจจุบันธุรกิจหนังกลางแปลงเข้าสู่ยุคใหม่กันแล้ว ด้วยเทคโนโลยีที่เอื้ออำนวย ราคาจับต้องได้ แล้วเอปสันเองก็มีเครื่องหลากหลายก็ตอบโจทย์ได้ง่าย”
“ไม่ว่าหน่วยหนังเก่าหรือหน้าใหม่หากมาปรึกษาทางเรา เราจะเน้นจุดคุ้มทุนให้เร็วที่สุด ต้องดูหน่วยว่ารับงานประมาณไหน ก็จะแนะนำเครื่องฉายที่เหมาะสม เน้นความคุ้มทุนของผู้ประกอบการ และการดูแลมั่นใจได้เลยว่า ผมดูแลตั้งแต่วันแรกจนตลอดการใช้งานครับ” คุณแมนย้ำถึงแนวทางการทำงาน
ทางเอปสันให้ความมั่นใจด้วยเช่นกันว่า ปัจจุบัน เอปสันมีเลเซอร์โพรเจกเตอร์ในตลาดมากกว่า 20 รุ่น เพื่อตอบโจทย์การใช้งานในกลุ่มธุรกิจอีเวนต์และงานจัดแสดงหลากหลายรูปแบบ โดยบริษัทฯ มุ่งเป้าที่จะเป็นผู้นำในการสร้างมาตรฐานใหม่ของการแสดงภาพและนำเสนอคอนเทนท์ด้วยเทคโนโลยีที่โดดเด่น นอกจากนี้ ทางเอปสันยังมีโพรเจคเตอร์รวมกว่า 70 รุ่น เพื่อตอบโจทย์การใช้งานด้านการนำเสนอภาพที่แตกต่างกันในองค์กรธุรกิจ การศึกษา สื่อโฆษณาดิจิทัล ฯลฯ
“Epson Love Cinema Drive-in Theater” ไม่เพียงตอกย้ำถึงศักยภาพความโดดเด่นของเอปสันเท่านั้น แต่ยังถือว่าเอปสันได้ปักหมุดในวงการหนังกลางแปลงไทยอย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้ว
+4 เหตุผลที่ควรเลือกใช้ Epson Laser Projector
คณิน ธรรมภิบาลอุดม
ผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายวางแผนพัฒนาผลิตภัณฑ์และการตลาด เอปสัน (ประเทศไทย)
+
✅ ใช้งานได้ยาวนาน (ใช้งานได้ยาวนานถึง 20,000 ชั่วโมง โดยไม่จำเป็นต้องบำรุงรักษา)
✅ ประหยัดพลังงาน (Epson Laser Projector สามารถฉายภาพในค่าความสว่างที่เท่ากันและให้ประสิทธิภาพที่สูงกว่า แต่ใช้กำลังวัตต์ที่น้อยกว่า จึงประหยัดพลังงานมากกว่า)
✅ ประหยัดค่าใช้จ่าย (ด้วยอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่า และบำรุงรักษาน้อยกว่า จึงช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย)
✅ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Epson Laser Projector ใช้งานได้ยาวนานถึง 20,000 ชั่วโมง เทียบเท่ากับการใช้ 5 หลอดภาพของโพรเจกเตอร์ทั่วไป จึงเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ไม่สร้างขยะอิเล็กทรอนิกส์ อีกทั้งยังไม่ใช้สารปรอทในขั้นตอนการผลิต)
สอบถาม Epson Call Center
โทร : 02-685-9899