INDEX OPEN HOUSE 2020 “อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ” เปิดบ้านในโอกาสครบรอบ 30 ปี
ทุ่มทุนกว่า 100 ล้านบาท จัดงานโชว์นวัตกรรมครีเอทีฟอีเว้นท์ของไทย
4 ไฮไลต์
- 3D INDOOR DRONE ครั้งแรกของประเทศไทย กับ การแสดงโดรนในรูปแบบ 3 มิติ ภายในพื้นที่จำกัด ที่ต้องอาศัยความชำนาญ รวมถึงความคิดสร้างสรรค์ในการออกแบบ ตลอดจนกำหนดลีลาการเคลื่อนไหวให้สอดคล้องกับการแสดงเหมือนว่าโดรนมีชีวิต
- IMMERSIVE ART THEATRE ที่สุดของ Projection Mapping ในรูปแบบ 360 องศา ผ่านการแสดงมัลติมีเดียอาท ระดับโลก เป็นการผสมผสานกันที่ลงตัวระหว่างศิลปะและเทคโนโลยี แสง สี เสียง ที่ให้ความละเอียด คมชัดล่าสุดบนพื้นที่สูงกว่า 10 เมตร
- ILLUMINATION SHOWCASE การแสดง Lighting Installation รูปแบบใหม่ ที่เชื่อมต่อดิจิทัล อาร์ต มิวสิค และเทคโนโลยี เข้าไว้ด้วยกัน
- WORLD EXPO EXPERIENCES สัมผัสประสบการณ์นิทรรศการระดับโลก โดยใช้เทคโลยีล่าสุด ในการบอกเล่าเรื่องราว ในทุกแง่มุมของ WORLD EXPO จากอดีต ถึงปัจจุบัน
“อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ” เปิดบ้านในโอกาสครอบรอบ 30 ปี โชว์นวัตกรรม อุปกรณ์เทคโนโลยีแสง สี เสียงที่ทุ่มทุนกว่า 100 ล้าน เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าและรองรับการจัดงานอีเวนต์ได้ในทุกรูปแบบที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยดึงเอาไฮไลต์เด่นๆ ของอุปกรณ์ Hi-Technology ผสมผสานกับความครีเอทีฟ มาโชว์ในงาน “INDEX CREATIVE VILLAGE OPEN HOUSE 2020 ” ที่จัดขึ้นระหว่าง 24-28 กุมภาพันธ์นี้ ซึ่งนอกจากเทคโนโลยีและความครีเอทีฟแล้ว กลยุทธ์ของอินเด็กซ์จะเพิ่มเรื่องของนวัตกรรม โดยปีนี้ตั้งเป้ารายได้โต 10% หรือคิดเป็นมูลค่า 1,900 ล้านบาท
“ในปีนี้กลุ่มบริษัทอินเด็กซ์ ครบรอบ 30 ปี ของการก่อตั้งธุรกิจ ประกาศความเป็นผู้นำครีเอทีฟอีเว้นท์อันดับ 7 ของโลก จัดงาน INDEX CREATIVE VILLAGE OPEN HOUSE 2020 ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Born to be Creator” โชว์ศักยภาพงานครีเอทีฟของไทย โดยงานนี้เป็นงานแสดงครีเอทีฟไอเดีย ด้วยเทคโนโลยีระบบภาพ แสง เสียง และมัลติมีเดียที่ทันสมัยที่ใช้ในงานอีเว้นท์ระดับโลก นำมาผสมผสานกับความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งสิ่งที่ลูกค้าต้องการมากที่สุดในตอนนี้คือเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่สามารถสร้างความประทับใจแก่ลูกค้าเมื่อเลือกใช้เป็นครั้งแรก” คุณเกรียงกานต์ กาญจนะโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงงานครั้งนี้
0 Born to be Creator
ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Born to be Creator” โชว์ศักยภาพงานครีเอทีฟของไทยครั้งนี้ ได้แต่งโซนไฮไลท์เด่น ๆ ไว้หลายจุดด้วยกัน
ครั้งนี้อินเด็กซ์ฯ ไม่รอช้า เปิดต้อนรับผู้มาเยือนด้วยตั้งแต่ชั้นที่ 1 ด้วย ไลน์โมชั่น กับ ฟลิบ บอร์ด ที่ซิงโครไนซ์ กับ Projection Mapping
ต่อด้วยโซน World Class Achievement รวบรวมรางวัลทั้งในต่างประเทศและในประเทศแบ่งเรื่องราวเป็น 3 เรื่องราว WORLD EXPO / CSR และรางวัล ICON SIAM ด้วยเทคนิค Projection Mapping ฉายลงบนพื้นผิวเพื่อเล่าเรื่องต่าง ๆ ผ่านภาพ เพิ่มสีสันความสนใจด้วยการซิงโครไนซ์กับเลเซอร์
จากนั้นเข้าสู่ IMMERSIVE ART THEATRE ที่สุดของ Projection Mapping ในรูปแบบ 360 องศา ผ่านการแสดงมัลติมีเดียอาร์ระดับโลก เป็นการผสมผสานกันที่ลงตัวระหว่างศิลปะและเทคโนโลยี แสง สี เสียง ที่ให้ความละเอียด คมชัดล่าสุดบนพื้นที่สูงกว่า 10 เมตร เล่าเรื่องราว World Expo 2020 Dubai” จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 20 ตุลาคม 2563 ถึง 10 เมษายน 2564 ณ เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ภายใต้การดูแลระบบแสงเสียงภาพโดย Media Vision
ความตื่นเต้นยังไม่หมดเท่านั้น อีกฟากฝั่งของอาคารในสวน ยังได้พบกับ ผลงานการพัฒนาโปรเจ็กต์ต่าง ๆ ด้วยตัวเองของอินเด็กซ์ฯ เพื่อสร้างสีสันใหม่ ๆ ให้กับการนำเสนอรูปแบบใหม่ ๆ อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการเนรมิตโต๊ะธรรมดาให้เป็นอวกาศนำเสนอสินค้าแบบใหม่ ในรูปแบบเคลื่อนไหว หรือโต๊ะอาหารที่เติมสีสันและเรื่องราวด้วย Projection Mapping ตลอดจนจอภาพและรูปแบบอื่น ๆ อีกมากมาย ที่จะสร้างการจดจำได้เป็นอย่างดี
ในโซนสวน ยังแนะนำถึง DRONE ที่เป็นอีกศักยภาพใหม่ของอินเด็กซ์ฯ ที่พร้อมยกระดับอีเวนต์ใหม่ ๆ ให้น่าสนใจยิ่งขึ้น
ปิดท้ายด้วยโชว์ไฮไลต์ “3D INDOOR DRONE” ครั้งแรกของประเทศไทย กับ การแสดงโดรนในรูปแบบ 3 มิติ ภายในพื้นที่จำกัด โดรนไม่ใช่แค่เรื่องของการมองเห็นภาพอย่างเดียว แต่สามารถโชว์ได้อย่างมีมิติและเรื่องราว ต่อด้วย Projection Mapping ซึ่งรายการแสดงทุกจุดนั้น ร่วมแสดงศักยภาพโดย “เอปสัน”
และ “ILLUMINATION SHOWCASE” การแสดง Lighting Installation รูปแบบใหม่ ที่เชื่อมต่อดิจิทัล อาร์ต มิวสิค และเทคโนโลยี เข้าไว้ด้วยกัน ภายใต้การดูแลของ Media Vision
ที่ผ่านมาอินเด็กซ์นั้นสะสมเทคโนโลยีมาเป็นลำดับ และปีนี้ตอกย้ำ “Born to be Creator” อีกครั้งและสร้างสรรค์งานอีเวนต์ที่ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป!!